Pages

Friday, March 6, 2009

มองเด็กไทยผ่านเกมส์

ผมเป็นอีกหนึ่งคนที่เล่นเกมส์ค่อนข้างบ่อย ซึ่งเกมส์ที่เล่นเป็นส่วนมากคือ WarcraftIII: DotA ซึ่งเป็นที่นิยมมากในหมู่นักเล่นเกมส์ จากการเล่นเกมส์นี้มาเป็นเวลาพอควร ผมพอจะมองเกมเมอร์ไทยที่มีปัญหาออกหลายๆแบบ:

Thursday, January 8, 2009

วิเคราะห์ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

หลังจากที่ได้ติดตามการดีเบตหลายๆครั้ง 4 ตัวเก็งสำหรับตำแหน่งผู้ว่าราชการกทม. ได้แก่ เบอร์ 2 ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร เบอร์ 8 ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล เบอร์ 10 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี และ เบอร์ 12 นายแก้วสรร อติโพธิ บอกตามตรงว่า ฟังจากแนวนโยบาย ไม่ค่อยต่างกันมากนัก อาจจะมีในรายละเอียดปลีกย่อยเกี่ยวกับนโยบายเล็กๆ แต่ส่วนมากเหมือนกัน คือ ปรับปรุงการจราจร แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ ความปลอดภัยในสังคม การท่องเที่ยว ซึ่งก็เป็นปัญหาที่คนกทม.คุ้นเคยดี ไม่ต้องลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อทำการบ้านมาตอบก็รู้ดีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่อย่างจะวิเคราะห์วิจารณ์คือ "วาทศิลป์" ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่า วาทศิลป์จะเป็นส่วนประกอบหนึ่งในการพลิกผันคะแนนเสียงได้มากทีเดียว
มาเริ่มวิเคราะห์เป็นรายบุคคลเลยละกัน

Monday, January 5, 2009

อคติกับสังคมไทย

ขอออกตัวก่อนว่าไม่ใช่ผู้เชียวชาญด้านมนุษยวิทยา ข้อความที่เขียนจึงเป็นเพียงข้อคิดเห็นล้วนๆ

ปัจจุบันคนไทยติดตามข่าวสารบ้านเมืองกันมากขึ้นมาก รวมถึงยังมีความรู้สึกเป็นส่วนร่วมกับเหตุการณ์ข่าวสารต่างๆมากกว่าแต่ก่อน  คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้อย่างง่ายดายและยังสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างตามใจชอบบนอินเตอร์เน็ท ผมเองก็ติดตามอ่านข่าวสารจำนวนมากในแต่ละวัน โดยส่วนมากเว็บที่เข้าไปอ่านข่าวก็คือผู้จัดการออนไลน์ (www.manager.co.th) ซึ่งเป็นเว็บของฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ผมเลือกอ่านเว็บนี้เพราะมีการอัพเดทข่าวสารอย่างรวดเร็ว และยังครอบคลุมข่าวในหลายๆแขนง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมสัมผัสได้จากเว็บข่าวนี้คือ ความมีอคติ (ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโดนพันธมิตรล้างสมองรึเปล่านะ) ข้อแสดงความคิดเห็นหลายข้อบ่งบอกถึงความมีอคติ อิจฉา ริษยา รังเกียจ เรียกได้ว่าเป็นด้านมืดของมนุษย์แบบสุดๆเลย การแสดงข้อโต้แย้งแบบมีเหตุมีผล มักจะถูกตอบโต้ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ยิ่งไปกว่านั้น ข้อคิดเห็นที่โต้แย้งกับทางเว็บ (หรือพันธมิตรฯ) จะไม่ได้รับความเห็นชอบให้ขึ้นเว็บด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบ เรื่องแบบนี้จริงๆแล้วถือเป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะคนจำนวนมากเข้ามาอ่านข่าว อ่านความคิดเห็น แต่ได้เห็นเพียงด้านเดียวของเนื้อหา หรือด้านเดียวของความคิด ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ต่างอะไรกับระบอบสังคมนิยมหรือเผด็จการเลย การแสดงออกทางความคิดที่ถูกปิดกั้นแบบนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าาเราถูกริดรอนสิทธิหรือเปล่า

ผมยกตัวอย่างเว็บนี้เพราะเป็นเว็บที่ผมอ่านเป็นประจำ แต่ความตั้งใจของผมหมายรวมถึงเว็บอื่นๆที่มีการปฏิบัติในรูปแบบเดียวกันทั้งหมดด้วย