Pages

Thursday, January 8, 2009

วิเคราะห์ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

หลังจากที่ได้ติดตามการดีเบตหลายๆครั้ง 4 ตัวเก็งสำหรับตำแหน่งผู้ว่าราชการกทม. ได้แก่ เบอร์ 2 ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร เบอร์ 8 ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล เบอร์ 10 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี และ เบอร์ 12 นายแก้วสรร อติโพธิ บอกตามตรงว่า ฟังจากแนวนโยบาย ไม่ค่อยต่างกันมากนัก อาจจะมีในรายละเอียดปลีกย่อยเกี่ยวกับนโยบายเล็กๆ แต่ส่วนมากเหมือนกัน คือ ปรับปรุงการจราจร แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ ความปลอดภัยในสังคม การท่องเที่ยว ซึ่งก็เป็นปัญหาที่คนกทม.คุ้นเคยดี ไม่ต้องลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อทำการบ้านมาตอบก็รู้ดีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่อย่างจะวิเคราะห์วิจารณ์คือ "วาทศิลป์" ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่า วาทศิลป์จะเป็นส่วนประกอบหนึ่งในการพลิกผันคะแนนเสียงได้มากทีเดียว
มาเริ่มวิเคราะห์เป็นรายบุคคลเลยละกัน

image   เบอร์ 2 ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร คุณลุงมาดนุ่ม (ตามแบบประชาธิปัตย์) น้ำเสียงนุ่ม ไพเราะ ใบหน้ายิ้มแย้มดีเวลาพูด แต่เป็นคนคิดช้า สังเกตได้จากการตอบคำถามว่าจะตอบวกวน ไม่ค่อยตรงคำถาม ทีมเลือกตั้งน่าจะซ้อมการตอบคำถามมากกว่านี้ ที่สำคัญ การใช้เวลาทำได้ไม่ดีเอาซะเลย (แต่ดีกว่าอ.แก้วสรร)



image  เบอร์ 8 ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หนุ่มนักเรียนนอกไฟแรง ที่เปิดตัวแรงๆ บทบาทที่แรง มาตั้งแต่สมัยเป็นนักข่าวทำให้คนจำนวนไม่น้อยหมั่นไส้ (ผมเป็นหนึ่งในนั้น) แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ คุณปลื้มทำได้ดีในเรื่องการทำการบ้านด้านข้อมูล การเลือกใช้น้ำเสียงที่อ่อน ฟังดูแล้วเรียกคะแนนสงสารได้ดี ทำให้มาดกร้าวแกร่งลดไปได้เยอะ ยอมรับอีกครั้งว่าแก้เรื่องบุคลิกภาพมาดีใช้ได้ (เสียอย่างเดียวที่ตอนเดินหาเสียงพี่แกใส่สูท)

image   เบอร์ 10 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี พระเอกหน้าหยก โด่งดังจากละครทีวี ได้เปรียบมากๆคือ "หล่อ" กว่าผู้สมัครรายอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด คุณแซมทำการบ้านมาดีมากเรื่องการตอบคำถาม ทั้งไอเดีย ทั้งน้ำเสียง ทั้งการรักษาเวลา ดีมาก (มากๆ) แสดงให้เห็นว่าฝึกตอบคำถามมาดี ตอบได้ตรงคำถามและกระชับ เป็นคนที่ผมให้คะแนนมากที่สุดเรื่องวาทศิลป์ แต่ข้อเสียคือ การใช้คำพูดเหน็บแนมพรรคประชาธิปัตย์ (แบบแย็บๆ) เดี๋ยวเหน็บนั่นเดี๋ยวเหน็บนี่ เลยทำให้ดูเป็นผู้ร้ายนิดหน่อย แต่อย่างว่า มาดหล่อช่วยได้เยอะ

image   เบอร์ 12 นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครอิสระ การมาด้วยความมาดมั่นเพื่อขอเป็นตัวกลางแก้ปัญหากทม. เป็นคนที่ผมให้คะแนนวาทศิลป์น้อยที่สุด (พอๆกับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์) เพราะการใช้น้ำเสียงที่ค่อนข้างกระด้าง ทั้งๆที่จริงๆอาจจะเป็นเพราะไม่ต้องการจะเสแสร้งใดๆ แต่น้ำเสียงของอาจารย์แก้วสรรนั้นค่อนข้างใหญ่และกระด้าง พูดค่อนข้างห้วน ที่สำคัญคือความที่เป็นคนค่อนข้างตรงไปตรงมา การตอบคำถามของเขาเลยไม่ได้สื่อประเด็นให้ครอบคลุม แต่มักจะนำเสนอจุดเล็กๆ แล้วบอกว่า "ขอแค่นี้ก่อน" ประมาณว่าทำแค่นี้ได้ก็ดีแล้ว นอกจากนี้ยังทำได้แย่เรื่องการรักษาเวลาและการตอบให้ตรงคำถามด้วย
จริงๆแล้วก็ไม่ได้มีสิทธิเลือกตั้งหรอกนะเนี่ย  สิ่งที่อยากเห็นมากๆคือคนไทยเลือกตั้งที่ “นโยบาย” อย่างแท้จริง ตัดอคติทั้งปวง ตัดความชอบ-เกลียดในพรรคการเมืองได้จะดีมาก

No comments: